ถุงยางอนามัยถือเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการติดเชื้อเอดส์ (HIV) ที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายไวรัสได้ถ...
ถุงยางอนามัยถือเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการติดเชื้อเอดส์ (HIV) ที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายไวรัสได้ถึง 85-90% เมื่อใช้ถูกต้องและสม่ำเสมอ การใช้ถุงยางอนามัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ช่วยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางช่องคลอด อนุภาคที่เกิดจากน้ำอสุจิ หรือน้ำหล่อลื่นในระหว่างการร่วมเพศ
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันเอดส์ยังขึ้นอยู่กับการใช้ที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบวันหมดอายุของถุงยาง ฉีกถุงยางอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการใช้ถุงยางซ้ำ ถุงยางอนามัยจึงไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอดส์ แต่ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย การศึกษาและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดการแพร่กระจายของเชื้อ HIV ในสังคม.